สมาคมโหรแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ กำเนิดขึ้นเมื่อวันที่ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๙๐ โดยมีผู้เริ่มก่อตั้งสมาคมจำนวน ๒๔ ท่าน ดังรายพระนามและรายนาม ดังต่อไปนี้
- นาวาเอก ม.จ.เจริญศุขโสภาคย์ เกษมสันต์
- ม.จ.เกียรติประวัติ เกษมสันต์
- พระยาโหราธิบดี
- พระยาบริรักษเวชชการ
- พระยาอาณาจักรบริบาล
- พ.ต.อ.พระยาประสงค์สรรพการ
- พระยาศรีวิศาลวาจา
- พระยาโทณวนิกมนตรี
- คุณหญิงโภชากร
- พระดุลยภาณสรประจักษ์
- พ.ต.หลวงวุฒิรณพัสดุ์
- พ.อ.หลวงธรณีนิติญาณ
- ร.อ.หลวงวิทูรสถลกิจ
- หลวงอำรุงประชากิจ
- ม.ล.ยวง อิสรเสนา
- นายวงศ์ เชาวนกวี
- นายมงคล ดิสพิมล
- นายประยูร ธชาลุภัฎ
- นายพิพัฒน์ สุขทิศ
- นายทองอยู่ จั่นบุญมี
- นายภูมิ กาญจนัษฐายี
- ร.อ.เนื่อง ลุมพิกานนท์
- นายบรรจบ ชุวานนท์
- นายพิภพ ตังคณะสิงห์
กรรมการบริหารชุดแรก มีจำนวน ๙ ท่าน ดังรายพระนามและรายนามดังต่อไปนี้
- นาวาเอก ม.จ.เจริญศุขโสภาคย์ เกษมสันต์ นายกสมาคม
- พระยาบริรักษเวชชการ อุปนายก
- ม.ล.ยวง อิสรเสนา เหรัญญิก
- นายพิภพ ตังคณะสิงห์ เลขาธิการ
- พ.อ.หลวงธรณีนิติญาณ บรรณารักษ์
- หลวงอำรุงประชากิจ นายทะเบียน
- นายภูมิ กาญจนัษฐายี ปฏิคม
- พระยาอาณาจักรบริบาล กรรมการ
- พระยาโหราธิบดี กรรมการ
วันเปิดป้ายปฐมฤกษ์สมาคม คือ วันพฤหัสบดี ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๘ ปีกุน จุลศักราช ๑๓๐๙ ตรงกับวันที่ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๙๐ เวลา ๑๐.๔๘ น. วันนี้ถือเป็นวันกำเนิดของสมาคมอย่างแท้จริงเมื่อถึงกำหนดเวลาได้เกิดอัศจรรย์ พระพิรุณได้โปรยละอองฝนอันละเอียดลงมา เจ้าคุณธรรมปาโมกข์ ผู้อำนวยการหอสมุดมหามกุฎราชวิทยาลัย ซึ่งเป็นผู้ทำพิธีเปิดป้ายปฐมฤกษ์แทนองค์สมเด็จพระสังฆราช ได้กล่าวตอบหลังจากนายกสมาคมได้กล่าวอาราธนามีใจความว่า ท่านมีความยินดีที่สมาคมจะได้ฟื้นฟูวิชาอันเป็นสมบัติของชาติและช่วยถ่ายทอดความรู้ผดุงธำรงไว้ ซึ่งความรู้นี้ให้สืบต่อไปจนคนรุ่นหลังและชวนให้สมาชิกน้อมใจระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ผู้ทรงเป็นบูรพาจารย์แห่งโหราศาสตร์ไทยอันจักเป็นเครื่องแสดงความกตัญญูของสมาชิกสมาคมนี้ต่อจากนั้นเจ้าคุณธรรมปาโมกข์ได้ชักผ้าคลุมป้ายสมาคมประกาศนามสมาคมโหรแห่งประเทศไทยต่อประชาชนนับแต่วินาทีนั้นเป็นต้นมา หลังจากนั้นท่านนายกสมาคมคนแรกคือ นาวาเอก ม.จ.เจริญศุขโสภาคย์ เกษมสันต์ ได้กล่าวคำปราศรัยดังต่อไปนี้
“ท่านทั้งหลายในนามของสมาคมโหรแห่งประเทศไทย ข้าพเจ้าขอขอบคุณท่านที่ได้สละเวลาอันมีค่า มาเป็นเกียรติยศของสมาคม ข้าพเจ้าขอต้อนรับท่านทั้งปวงด้วยความปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง เหตุที่สมาคมได้ก่อร่างสร้างตัวขึ้นจนถึงได้กระทำพิธีเปิดในวันนี้ก็เพราะได้มีท่านผู้สนใจบางท่าน เช่น หม่อมหลวงยวง อิสรเสนา นายพิภพ ตังคณะสิงห์ นายภูมิ กาญจนัษฐายี เป็นต้น ใฝ่ใจอย่างเลือดร้อนรุนแรงในอันที่จะรวบรวมนักศึกษาและนักวิชาชีพเข้าด้วยกัน แล้วจัดตั้งเป็นสมาคม เปิดการรับสมาชิกทั่วพระราชอาณาจักร และเมื่อสมาคมได้บรรลุถึงจุดหมายปลายทางคือ ความรุ่งเรืองวัฒนาถึงขีดอันสมควรก็จะได้ติดต่อสังสรรค์กับสมาคมในต่างประเทศด้วย โดยหวังว่าประเทศไทยจะได้มีชื่อเสียงแพร่สะพัดไปทั่วโลกเมื่อได้มีแผนการอยู่ดังนี้ ท่านทั้งสามที่ได้เอ่ยนามมาแล้ว ก็ได้วิ่งเต้นติดตามชักชวนนักศึกษาผู้ทรงคุณต่างๆ ซึ่งไม่ใช่วิทยฐานะอย่างเดียว แต่ยังมีบรรดาศักดิ์ หรือเคยมีตำแหน่งหน้าที่ราชการและกิจการใหญ่มาร่วมด้วย ส่วนวิทยฐานะนั้นเล่าก็มีวิชากฎหมาย แพทย์ วิศวกรรม พุทธศาสน์ ฯลฯ นอกจากวิชาโหราศาสตร์อันเป็นเนื้อหาของสมาคมนี้ มาเป็นผู้เริ่มการจัดตั้งสมาคม ทั้งนี้ก็เพื่อปลูกฝังความเชื่อถือแก่ประชาชนให้เป็นที่ตระหนักว่าสมาคมได้มีเปลวไฟอันแรงกล้า พอจะต้มกลั่นผลิตวิชาโหราศาสตร์ออกมาได้เป็นอย่างดี ถ้าเรามีเชื้อเพลิงพอเพียง ที่ข้าพเจ้าเรียกว่าเชื้อเพลิงนี้ก็ได้แก่ทุนทรัพย์, ตำรับตำรา, แรงงานวิชาหรือความคิดเห็น,สถานที่ตั้งสมาคม, เครื่องใช้สอยและความสะดวกต่างๆ สำหรับทุนทรัพย์ก็ได้อาศัยหม่อมหลวงยวง อิสรเสนาทดรองและช่วยเหลือพอให้ดำเนินกิจการไปได้ สำหรับตำรา เครื่องเขียน แรงงานและวิชาก็ได้อาศัยท่านผู้เริ่มการแต่ละท่าน สำหรับสถานที่ก็ได้อาศัยหอสมุดมหามกุฎราชวิทยาลัย ซึ่งข้าพเจ้าจะเว้นเสียจากความทรงจำอุปการคุณอย่างยิ่งใหญ่เสียมิได้เลยแม้กระนั้น ข้าพเจ้าก็ไม่ทราบว่าเปลวไฟมันจะดับพรึบลงไปด้วยการขาดเชื้อเพลิงเมื่อไร เพื่อที่จะให้เปลวไฟของสมาคมได้มีโอกาสลุกฮืออย่างโชติช่วงเป็นนิรันดร ข้าพเจ้าจำต้องขอวิงวอนท่านทั้งหลายผู้สนใจในวิชาโหราศาสตร์ ได้เห็นอกเห็นใจช่วยกรุณาสงเคราะห์สมาคมนี้ด้วยเชื้อเพลิงตามศรัทธาซึ่งมีทางจะทำได้ด้วยการซื้อหนังสือพยากรณ์สาร สมัครเป็นสมาชิก ให้หรือให้ยืมตำรับตำราที่ท่านเปลวไฟของสมาคมนี้จึงจะลุกโชติช่วงไปได้ชั่วกาลนาน สวัสดี”
จากการนำเหตุการณ์ต่างๆ ในการก่อตั้งสมาคมมารำลึกถึงในครั้งนี้นั้น ก็เพื่อให้ท่านสมาชิกทุกท่านได้ตระหนักถึงคุณค่าที่ผู้ก่อตั้งได้ก่อตั้งสมาคมไว้เป็นมรดกแก่พวกเรา ขอคุณความดีดังกล่าวนี้ได้โปรดสะท้อนไปถึงท่านผู้ก่อตั้งในสัมปรายภพด้วย เทอญ
ตำแหน่งนายกสมาคมโหรแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ พระยาโหราธิบดี และเจ้ากรมโหรหลวง คือตำแหน่งสูงสุดของวงการโหรในอดีต ซึ่งในปัจจุบันก็คือตำแหน่ง นายกสมาคมโหรแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ นั่นเอง ปัจจุบันมีนายกสมาคม บริหารงาน
มาแล้วทั้งสิ้น ๑๐ คน คือ
- นาวาเอก หม่อมเจ้า เจริญศุขโสภาคย์ เกษมสันต์ พ.ศ. ๒๔๙๐
- หม่อมเจ้า เฉลิมศรีจันทรทัต จันทรทัต พ.ศ. ๒๔๙๑ – ๒๔๙๒
- พระยาบริรักษเวชชการ พ.ศ. ๒๔๙๓ – ๒๕๑๐
- หลวงสุทธิภาศนฤพนธ์ ครั้งที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๑๑ – ๑๒ ธ.ค. ๒๕๑๒ , ครั้งที่ ๒ ๒๙ มี.ค. ๒๕๑๓ – พ.ศ. ๒๕๑๔
- พ.อ.ประพิษ สุทธบุตร์ ๑๓ ธ.ค. ๒๕๑๒ – ๒๘ มี.ค. ๒๕๑๓
- ร.อ.นายแพทย์ไวทย ชินะโชติ พ.ศ.๒๕๑๕
- นาวาเอก เฉวียง สัฌชุกร พ.ศ. ๒๕๑๖
- พ.ต.ท. ประสิทธิ์ ลีละยูวะ พ.ศ. ๒๕๑๗ – ๒๕๓๕
- น.ส.วรพรรณ เลาหะวิไลย พ.ศ. ๒๕๓๖ – พ.ศ. ๒๕๔๓
- นายธนกร สินเกษม พ.ศ. ๒๕๔๔ – ๒๕๕๗
- นายศิวนาถ ฤชุพันธุ์ พ.ศ. ๒๕๕๘ – ปัจจุบัน